efinancethai

ประเด็นร้อน

4 โบรกฯ คัด 19 หุ้น ผลงาน Q2/66 มีแนวโน้มโดดเด่น 

4 โบรกฯ คัด 19 หุ้น ผลงาน Q2/66 มีแนวโน้มโดดเด่น 

 

4 โบรกฯ คัด 19 หุ้น คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 2/66 โดดเด่น  ทั้งกลุ่มธนาคารพาณิชย์ รับดอกเบี้ยขาขึ้น - กลุ่มบริโภคในประเทศ รับอานิสงส์เศรษฐกิจฟื้นตัว  และกลุ่มโรงพยาบาล 

 

***บล.ไอร่า มอง Q2/66 กลุ่มธนาคาร-ค้าปลีก โดดเด่น 

 

นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไอร่า เปิดเผยกับ “สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย” ว่า ภาพรวมไตรมาส 2/66 มองว่า ยังไม่กลุ่มอุตสาหกรรมไหนที่จะเติบโตโดดเด่นเป็นพิเศษ เนื่องจากปัจจุบันพบว่า EPS ของตลาดถูกลดระดับ ณ ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 95 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นภาพที่ลดลงมาต่อเนื่อง จากผลประกอบในกลุ่มพลังงานที่ถ่วง EPS ของตลาดค่อนข้างมาก 

 

ทั้งนี้ หากมองกลุ่มที่คาดว่าจะโดดเด่นได้ในไตรมาส 2 คือ หุ้นกลุ่มธนาคาร และค้าปลีก เพราะในไตรมาส 2/66 ยังเป็นช่วงที่อัตราดอกเบี้ยยังคงเป็นขาขึ้น และในระยะต่อไปโอกาสที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ยังค่อนข้างยาก ถือเป็นกลุ่มที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง โดย KBANK และ SCB เป็นตัวที่ทยอยซื้อสะสมได้ 

 

ส่วนกลุ่มนอกจากภาคธนาคาร คือ ค้าปลีก ชอบ MAKRO และ CPALL ซึ่งได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในประเทศ ทั้งจากภาคการท่องเที่ยว และภายในเป็นหลัก ยังเป็นกลุ่มที่ปลอดภัย 

 

บล.ไอร่า
MAKRO 44
CPALL 78
KBANK 153
SCB 121

 

***บล.อินโนเวสท์ฯ คัด 6 หุ้น คาดผลดำเนินงานดีทั้ง YoY - QoQ 

 

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ มองว่า หุ้นที่คาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 2/66 จะยังเติบโตได้ดีทั้งช่วงเดียวกันของปีก่อน และเทียบกับช่วงไตรมาสก่อนหน้า คือ AOT , BBL , ADVANC , MINT , OSP  และ KCE

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์
AOT 82
BBL 197
ADVANC 225
MINT 42
OSP 32
KCE 61


 

***บล.ดีบีเอส เลือก BH-EKH เด่น  

 

ขณะที่ ดีบีเอส วิคเคอร์ส มองว่า หุ้นในไตรมาส 2/66 ที่จะเติบโตได้ในไตรมาส 2/66 คือ BH โดยมองว่าจะเติบโตทั้งจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และทรงตัวสูงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลจากรายได้คนไข้ต่างชาติยังแข็งแกร่งมาก โดยเฉพาะในกลุ่ม CLMV และชาวจีน รวมถึงการทำเด็กหลอดแก้วหนุน ทั้งนี้ ประมาณการกำไรสุทธิปี 66-67 เติบโต 9-10% จากรายได้ขยายตัว โดยแนะนำซื้อ ที่ราคาพื้นฐาน 250 บาท 

 

เช่นเดียวกับ EKH คาดกำไรสุทธิในไตรมาส 2/66 จะเติบโตทั้งช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อน จากรายได้คนไข้เงินสดที่เพิ่มขึ้น รายได้จากเคสทำเด็กหลอดแก้วสูงขึ้น แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 10 บาท และ HMPRO ที่มองว่า ไตรมาส 2/66 ผลการดำเนินงานจะแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยจากตัวเลขเศรษฐกิจในภาพรวมยังเอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ ให้ราคาพื้นฐานไว้ที่ 17.80 บาท 

 

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส
BH 250
EKH 10
HMPRO 17.80

 

***บล.หยวนต้า จัด  6 หุ้นเด่น กำไรดี 

 

บล.หยวนต้า ประเมินหุ้นที่คาดว่ากำไรในไตรมาส 2/66 จะฟื้นตัว รวมถึงจะเติบโตได้ดี จำนวน 6 บจ.  เช่น MAJOR ที่มองว่า จะฟื้นตัวทั้งช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากเข้าสู่ High season ของอุตสาหกรรม มีหนังฟอร์มใหญ่รอฉายหลายเรื่อง รวมถึงยังคงคำแนะนำซื้อ โดยมองว่า ผลประกอบการปีนี้จะฟื้นตัวโดดเด่น จากฐานที่ต่ำหลังสถานการณ์โควิด-19 บรรเทาความรุนแรงลง ประเมินราคาพื้นฐานปีนี้ที่ 20.25 บาท

 

ขณะเดียวกัน ยังมอง HTC แนวโน้มในไตรมาส 2/66 เบื้องต้นทำ  New High ต่อ จากการเข้าสู่ช่วงหน้าร้อนและเทศกาลสงกรานต์ โดยมีแรงหนุนจากสภาพอากาศปีนี้ที่ร้อนกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดการบริโภคมากขึ้น ประกอบกับจำนวนนักท่องเที่ยวภายใต้ทั้งในและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น บวกกับการออกสินค้าใหม่จำนวน 2 SKU ในช่วงเดือนเม.ย. และการทำกิจกรรมการตลาดต่างๆ โดยมองว่า HTC จะเติบโตได้โดดเด่นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนในทุกไตรมาสหลังจากนี้ โดยคงราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปีนี้ที่ 48 บาท คงคำแนะนำซื้อ และเลือกเป็นหุ้น Top pick สำหรับกลุ่มเครื่องดื่มในไตรมาส 2/66 ด้วย 

 

สำหรับ SAT มองว่า แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2 จะปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคาดว่ายอดขายจะฟื้นตัวตามอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันในช่วงครึ่งหลังของปีผลประกอบการมีแนวโน้มดีขึ้น เริ่มรับรู้รายได้จากกรายได้ธุรกิจ EV โดยคงคำแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 23.40 บาทต่อหุ้น

บล.หยวนต้า
MAJOR 20.25
ILM 22.10
BEC 8.58
HTC 48
KTB 21
SAT 23.40






ข่าวหุ้นอื่นๆที่น่าสนใจ

RECOMMENDED NEWS

ข่าวหุ้นยอดนิยม

Refresh




LATEST NEWS

ข่าวหุ้นล่าสุด

Refresh

ดูข่าวทั้งหมด