4 โบรกเกอร์ มอง SET เดือน พ.ย.ยังไปต่อ หลังตลาดรับรู้ข่าว Fed ขึ้นดอกเบี้ยมากแล้ว แถมเศรษฐกิจไทยเข้าไฮซีซั่น หนุน Flow ไหลเข้า ให้กรอบ SET 1,560 - 1,670 จุด พร้อมเปิดโผ 23 หุ้นเด่นเดือน พ.ย. เน้นกลุ่มรับอานิสงส์เศรษฐกิจฟื้น ยก PLANB - BBL แจ่มสุด ส่วน CRC มีอัพไซด์สูงสุดถึง 56.63%
*** กูรูผสานเสียง SET พ.ย.ขาขึ้น
"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" สำรวจกลยุทธ์การลงทุนเดือน พ.ย.65 จากนักวิเคราะห์ 4 โบรเกอร์ พบส่วนใหญ่มองว่า ดัชนีหุ้นไทย (SET Index) มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง มีปัจจัยหนุนจากตลาดรับรู้การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มากแล้ว อีกทั้งมีปัจจัยหนุนจากเงินทุนต่างประเทศ (Fund flow) ไหลเข้า โดยประเมินกรอบดัชนีไว้ดังนี้
บล.
|
กรอบดัชนี
|
เอเชีย พลัส
|
1,576 - 1,670
|
ทรีนีตี้
|
1,560 - 1,660
|
ฟินันเซียฯ
|
1,580 - 1,650
|
ดาโอ
|
1,580 - 1,630
|
"ณัฐชาต เมฆมาสิน" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ประเมิน SET Index เดือน พ.ย. แกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,560 - 1,660 จุด โดยช่วงแรกของเดือน คาดว่าบรรยากาศการลงทุนยังอยู่ในเกณฑ์ดี จากการที่ไม่มีข่าวร้ายใหม่เข้ามากระทบ พร้อมทั้ง Fund flow มีสัญญาณบวกต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งจากการพลิกกลับมามีสัญญาณที่ดีของดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือนล่าสุด
อย่างไรก็ดี พอผ่านพ้นช่วงต้นเดือนไป อาจต้องระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะหากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาร้อนแรงต่อเนื่อง จะทำให้นักลงทุน Price in การขึ้นดอกเบี้ย Fed ครั้งสุดท้ายของปีนี้ในระดับที่รุนแรงมากขึ้นได้ ไม่นับรวมกับความเสี่ยงที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมปลายเดือนนี้อีกด้วย
ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมิน SET Index เดือน พ.ย.นี้ อยู่ในกรอบ 1,580 - 1,650 จุด โดยปัจจัยที่ต้องติดตามอยู่ที่ต่างประเทศเป็นหลัก เช่น การประชุม Fed และการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ ส่วนในประเทศโฟกัสอยู่ที่การประกาศงบการเงินไตรมาส 3/65 ของบริษัทจดทะเบียน
ทั้งนี้ ภาพรวมกระแสเงินทุนเริ่มพลิกมาไหลเข้าชัดเจน ตั้งแต่ปลายเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้เรายังมองบวกต่อ SET Index โดยคาดว่า ดัชนีจะทยอยปรับขึ้นได้ จึงยังคงแนะนำถือหุ้นลงทุนต่อเนื่องได้ หลังสะสมหุ้นมาที่บริเวณ 1,580 จุด เมื่อเดือนนก่อน โดยยังแนะนำหุ้นในกลุ่ม Domestic//Reopening Play
ฟาก บล.ดาโอ (ประเทศไทย) มองเดือนพ.ย.นี้ ดัชนีมีโอกาศปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง คาดกรอบดัชนีที่ 1,580 - 1,630 จุด โดยการประชุม FOMC ในช่วง 2 ครั้งสุดท้ายของปี (2 พ.ย. และ 14 ธ.ค.) อาจจะเข้ามารบกวนตลาดเป็นระยะ ซึ่งคาดว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยที่ 0.75% ทั้ง 2 รอบ
ขณะที่ ตลาดหุ้นไทยเข้าสู่ช่วงการรายงานงบการเงินไตรมาส 3/65 ของบริษัทจดทะเบียน โดยคาดว่า จะเริ่มมีแรงเก็งกำไรหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการจะออกมาโดดเด่น และกลุ่มภาคดารท่องเที่ยว อีกทั้งยังมีปัจจัยบวก อย่างเงินบาทกลับมาแข็งค่า ช่วยหนุนตลาด อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามการประชุม APEC และ G20 ช่วงกลางเดือน ว่าจะมีความคืบหน้าปัญหาต่าง ๆ หรือไม่ ?
ส่วน บล.เอเซีย พลัส ประเมิน SET Index เดือน พ.ย. เคลื่อนไหวในกรอบ 1,576 – 1,670 จุด ประเมิน Downside มีอยู่จำกัด ขณะที่ปัจจัยบวกยังมีอยู่ทั้งประมาณการกำไรบริษัทปี 65 ที่มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น และเศรษฐกิจไทยที่ยังเติบโต คาดหวังเม็ดเงินท่องเที่ยวจากต่างชาติ
*** เปิด 23 หุ้นเด่น เน้นรับอานิสงส์เศรษฐกิจฟื้น
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณากลยุทธ์การลงทุนเดือน พ.ย.65 ของโบรกเกอร์ทั้ง 4 แห่ง จะพบว่า มีกลยุทธ์หลัก คือ แนะนำหุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัว และกำไรครึ่งปีหลังมีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น โดยมีหุ้นแนะนำทั้งหมด 23 บริษัท ที่มีอัพไซด์ 10% ขึ้นไป ประกอบด้วย
4 โบรกฯชี้เป้า 23 หุ้นเด่นเดือน พ.ย.
|
บล.
|
ชื่อย่อหุ้น
|
เหตุผล
|
ราคาเหมาะสม (บ.)
|
%อัพไซด์*
|
ทรีนีตี้
|
TIDLOR
|
เศรษฐกิจในประเทศฟื้น
|
36.54
|
39.20
|
AEONTS
|
เศรษฐกิจในประเทศฟื้น
|
218
|
34.98
|
COM7
|
เศรษฐกิจในประเทศฟื้น
|
40.64
|
31.10
|
ONEE
|
เศรษฐกิจในประเทศฟื้น
|
12.22
|
29.31
|
RATCH
|
เศรษฐกิจในประเทศฟื้น
|
53.5
|
28.14
|
KBANK
|
เศรษฐกิจในประเทศฟื้น
|
184.9
|
25.78
|
ADVANC
|
เศรษฐกิจในประเทศฟื้น
|
242
|
25.71
|
TLI
|
เศรษฐกิจในประเทศฟื้น
|
19.83
|
23.94
|
DTAC
|
เศรษฐกิจในประเทศฟื้น
|
51.43
|
15.57
|
PLANB
|
เศรษฐกิจในประเทศฟื้น
|
8.15
|
10.88
|
เอเชีย พลัส
|
CRC
|
เศรษฐกิจในประเทศฟื้น
|
65
|
56.63
|
CBG
|
เศรษฐกิจในประเทศฟื้น
|
121
|
32.60
|
GULF
|
เศรษฐกิจในประเทศฟื้น
|
65
|
25.60
|
CK
|
เศรษฐกิจในประเทศฟื้น
|
27
|
15.88
|
PLANB
|
เศรษฐกิจในประเทศฟื้น
|
8.5
|
15.65
|
BBL
|
เศรษฐกิจในประเทศฟื้น
|
159
|
10.20
|
ฟินันเซียฯ
|
NOBLE
|
กำไร H2/65 แกร่ง
|
5.6
|
21.74
|
MAKRO
|
กำไรโตระยะยาว
|
42
|
18.31
|
BBL
|
ดอกเบี้ยขึ้น
|
170
|
17.24
|
DOHOME
|
กำไรโตระยะยาว
|
15
|
15.38
|
EKH
|
กำไร H2/65 แกร่ง
|
9.3
|
10.71
|
ดาโอ
|
TU
|
กำไร Q3/65 แกร่ง
|
24
|
31.15
|
TOG
|
กำไร Q3/65 แกร่ง
|
12
|
29.73
|
KTB
|
ดอกเบี้ยขึ้น
|
20
|
14.29
|
BH
|
กำไร H2/65 แกร่ง
|
245
|
10.15
|
*อัพไซด์เทียบราคาปิด 2 พ.ย.65
|
*** กูรูยก "PLANB" - "BBL" แจ่มสุด
23 หุ้นดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นบริษัทในดัชนี SET100 จำนวน 21 บริษัท โดยกลุ่มธุรกิจธนาคารพาณิชย์ และพาณิชย์ ติดโผสูงสุด จำนวน 3 บริษัท เท่ากัน รองลงมา คือ หุ้นในกลุ่มการแพทย์, เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร, เงินทุนและหลักทรัพย์, พลังงานและสาธารณูปโภค, สื่อและสิ่งพิมพ์ และอาหารและเครื่องดื่ม ที่ติดโผ 2 บริษัท เท่ากัน
โดย บมจ.แพลน บี มีเดีย (PLANB) และ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) เป็น 2 บริษัท ที่มีนักวิเคราะห์แนะนำตรงกันมากที่สุด จำนวน 2 แห่งเท่ากัน โดย PLANB มีอัพไซด์ระหว่าง 10.88 - 15.65% ส่วน BBL มีอัพไซด์ระหว่าง 10.20 - 17.24%
*** พบ "CRC" มีอัพไซด์สูงสุดถึง 56.63%
ด้าน บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) เป็นบริษัท ที่มีอัพไซด์สูงสุดถึง 56.63% รองลงมา คือ บมจ.เงินติดล้อ (TIDLOR) ที่มีอัพไซด์ 39.20%
ขณะที่ มีอีก 4 บริษัท ที่ราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน มีอัพไซด์ 30% ขึ้นไป ประกอบด้วย บมจ.อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) หรือ AEONTS มีอัพไซด์ 34.98%, บมจ.คาราบาวกรุ๊ป (CBG) มีอัพไซด์ 32.60%, บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) มีอัพไซด์ 31.15% และ บมจ.คอมเซเว่น (COM7) มีอัพไซด์ 31.10%