พบ 61 หุ้น SET100 ถูก NVDR เพิ่มน้ำหนักลงทุน ส่วนใหญ่เป็นหุ้นพลังงานฯ แต่ "BH" ถูกเข้าซื้อเพิ่มสูงสุดอีก 8.17% ส่ง NVDR ขยับขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ที่สัดส่วน 15.82% แทนที่ "สาธิต วิทยากร" ขณะที่ ผลตอบแทนราคาหุ้น YTD ของ 61 หุ้น เฉลี่ยยังติดลบ 0.65%
8 เดือนแรกของปีนี้ นักลงทุนต่างประเทศ (Fund Flow) มีสถานะซื้อสุทธิหุ้นไทยกว่า 1.7 แสนล้านบาท ถือเป็นเม็ดเงินลงทุนที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ (เทียบสิ้นปี 64 ขายสุทธิ 4.85 หมื่นล้านบาท) สอดรับเม็ดเงินไหลเข้าตลาดในภูมิภาค หลังเศรษฐกิจสหรัฐฯเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอย จากการประกาศตัวเลขจีดีพีติดลบ 2 ไตรมาส ติดต่อกัน
ทั้งนี้ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" จึงได้สำรวจสัดส่วนการถือครองหุ้นของบริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด (NVDR) ในกลุ่มหุ้น SET100 ณ ข้อมูลปิดสมุดทะเบียนล่าสุดของปี 65 เทียบกับปี 64 พบ 61 หุ้นในกลุ่มดังกล่าว ถูก NVDR เพิ่มน้ำหนักลงทุน ดังนี้
61 หุ้น SET100 ถูก NVDR เพิ่มน้ำหนักลงทุน
|
ชื่อย่อหุ้น
|
%สัดส่วนใหม่
|
เพิ่มขึ้น (%)
|
วันปิดสมุด
|
BH
|
15.82
|
8.17
|
26-ส.ค.
|
TOP
|
13.73
|
5.61
|
19-ส.ค.
|
SPRC
|
11.1
|
4.82
|
25-ส.ค.
|
PTTEP
|
9.61
|
3.69
|
16-ส.ค.
|
TTA
|
6.46
|
3.46
|
25-มี.ค.
|
IRPC
|
8.19
|
3.13
|
23-ก.พ.
|
OSP
|
7.56
|
3.11
|
25-ส.ค.
|
TRUE
|
7.22
|
2.69
|
14-มี.ค.
|
LH
|
18.51
|
2.5
|
26-ส.ค.
|
ADVANC
|
8.17
|
2.42
|
21-ก.พ.
|
FORTH
|
4.6
|
2.3
|
29-ส.ค.
|
STARK
|
2.55
|
2.12
|
30-ส.ค.
|
PSL
|
10.9
|
2.11
|
29-ส.ค.
|
COM7
|
6.64
|
2.02
|
14-มี.ค.
|
MEGA
|
9.8
|
1.88
|
25-ส.ค.
|
KKP
|
12.75
|
1.62
|
29-เม.ย.
|
SPALI
|
9.9
|
1.61
|
24-ส.ค.
|
CHG
|
7.91
|
1.58
|
25-ส.ค.
|
EGCO
|
7.87
|
1.36
|
15-มี.ค.
|
CBG
|
4.72
|
1.31
|
29-ส.ค.
|
BDMS
|
9.59
|
1.3
|
10-มี.ค.
|
TQM
|
3.06
|
1.3
|
29-ส.ค.
|
PTTGC
|
10.19
|
1.12
|
1-มี.ค.
|
AEONTS
|
7.69
|
1.1
|
13-พ.ค.
|
GULF
|
3.85
|
1.04
|
7-มี.ค.
|
STA
|
8.54
|
1.02
|
24-ส.ค.
|
JMT
|
5.95
|
0.87
|
25-ส.ค.
|
HMPRO
|
8.32
|
0.87
|
21-เม.ย.
|
HANA
|
7.54
|
0.86
|
14-มี.ค.
|
SUPER
|
4.61
|
0.86
|
5-พ.ค.
|
IVL
|
6.68
|
0.81
|
1-มิ.ย.
|
MTC
|
7
|
0.76
|
29-เม.ย.
|
CPN
|
6.96
|
0.72
|
7-มี.ค.
|
KTC
|
8.32
|
0.67
|
9-เม.ย.
|
INTUCH
|
6.1
|
0.63
|
25-ส.ค.
|
THANI
|
3.13
|
0.6
|
3-มี.ค.
|
MINT
|
9.08
|
0.58
|
14-มี.ค.
|
EA
|
7.23
|
0.57
|
14-มี.ค.
|
CRC
|
3.9
|
0.54
|
10-พ.ค.
|
OR
|
2.62
|
0.54
|
1-มี.ค.
|
PTT
|
5.79
|
0.52
|
4-มี.ค.
|
BCH
|
12.65
|
0.45
|
11-พ.ค.
|
SCGP
|
4.05
|
0.4
|
9-ส.ค.
|
RATCH
|
6.49
|
0.39
|
9-พ.ค.
|
BGRIM
|
4.67
|
0.35
|
26-ส.ค.
|
SYNEX
|
2.24
|
0.34
|
23-ส.ค.
|
GPSC
|
2.53
|
0.29
|
25-ก.พ.
|
MAJOR
|
5.61
|
0.28
|
22-เม.ย.
|
BCPG
|
2.04
|
0.28
|
4-มี.ค.
|
ORI
|
3.45
|
0.26
|
29-ส.ค.
|
BTS
|
9.93
|
0.23
|
4-ส.ค.
|
WHA
|
4.53
|
0.23
|
6-พ.ค.
|
GLOBAL
|
3.52
|
0.16
|
28-ก.พ.
|
ACE
|
2.31
|
0.15
|
12-มี.ค.
|
AWC
|
3.27
|
0.15
|
29-เม.ย.
|
AP
|
15.45
|
0.13
|
11-พ.ค.
|
BAM
|
5.32
|
0.11
|
3-พ.ค.
|
ONEE
|
1.59
|
0.11
|
24-ส.ค.
|
CPALL
|
10
|
0.1
|
29-เม.ย.
|
KBANK
|
19.04
|
0.1
|
19-เม.ย.
|
KTB
|
5.64
|
0.02
|
21-เม.ย.
|
ที่มา : SETSMART
หมายเหตุ : %สัดส่วนหุ้นเทียบช่วงปิดสมุดล่าสุดกับปี 64
|
*** "หุ้นพลังงานฯ"ยังเป็นตัวเลือกยอดฮิต
61 บจ.ดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นหุ้นในกลุ่มธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค ติดโผสูงสุด จำนวน 17 บริษัท รองลงมา คือกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ติดโผจำนวน 8 บริษัท ส่วนกลุ่มธุรกิจพาณิชย์ และเงินทุนและหลักทรัพย์ ติดโผจำนวน 7 บริษัท เท่ากัน
*** "BH" ถูกเพิ่มน้ำหนักมากสุด 8.17%
ขณะที่ บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) เป็นหุ้นในดัชนี SET100 ที่ถูก NVDR เพิ่มน้ำหนักลงทุนมากสุด 8.17% โดยสัดส่วนการถือครอหุ้นของ NVDR ใน BH ปีนี้ อยู่ที่ 15.82% (ปี 64 สัดส่วน 7.65%) ขยับขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 (เดิมเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 4) แทนที่ "สาธิต วิทยากร"
รองลงมา คือ บมจ.ไทยออยล์ (TOP) ที่ล่าสุด NVDR มีสัดส่วนการถือครองหุ้น 13.73% (ปี 64 สัดส่วน 8.12%) เพิ่มขึ้น 5.61% แต่ยังคงสถานะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 เหมือนปีก่อนตามเดิม ซึ่งผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของ TOP ยังคงเป็น บมจ.ปตท. (PTT) ที่ถือครองหุ้นในสัดส่วน 45.03% เท่ากับปีก่อน
*** อีก 5 บจ. ถูกเพิ่มน้ำหนักมากกว่า 3%
นอกจากนี้ ยังมีอีก 5 บริษัท ที่ถูก NVDR เพิ่มน้ำหนักลงทุนมากกว่า 3% ประกอบด้วย บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) ที่ล่าสุด NVDR มีสัดส่วนการถือครองหุ้น 11.1% (ปี 64 สัดส่วน 6.28%) เพิ่มขึ้น 4.82% แต่ยังคงสถานะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 เหมือนปีก่อนตามเดิม ซึ่งผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของ SPRC ยังคงเป็น CHEVRON SOUTH ASIA HOLDINGS PTE LTD ที่ถือครองหุ้นในสัดส่วน 60.56% เท่ากับปีก่อน
ด้าน บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ล่าสุด NVDR มีสัดส่วนการถือครองหุ้น 9.61% (ปี 64 สัดส่วน 5.92%) เพิ่มขึ้น 3.69% แต่ยังคงสถานะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 เหมือนปีก่อนตามเดิม ซึ่งผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของ SPRC ยังคงเป็น บมจ.ปตท. (PTT) ที่ถือครองหุ้นในสัดส่วน 63.79% เท่ากับปีก่อน
ฟาก บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) ล่าสุด NVDR มีสัดส่วนการถือครองหุ้น 6.46% (ปี 64 สัดส่วน 3%) เพิ่มขึ้น 3.46% ขยับขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 4 ของ TTA ขณะที่ปีก่อน NVDR เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 6 ของ TTA
ขณะที่ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) ล่าสุด NVDR มีสัดส่วนการถือครองหุ้น 8.19% (ปี 64 สัดส่วน 5.06%) เพิ่มขึ้น 3.13% แต่ยังคงสถานะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 เหมือนปีก่อนตามเดิม ซึ่งผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของ IRPC ยังคงเป็น บมจ.ปตท. (PTT) ที่ถือครองหุ้นในสัดส่วน 45.05% เท่ากับปีก่อน
ส่วน บมจ.โอสถสภา (OSP) ล่าสุด NVDR มีสัดส่วนการถือครองหุ้น 7.56% (ปี 64 สัดส่วน 4.45%) เพิ่มขึ้น 3.11% แต่ยังคงสถานะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 เหมือนปีก่อนตามเดิม ซึ่งผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของ OSP ยังคงเป็น"นิติ โอสถานุเคราะห์" ที่ถือครองหุ้นเพิ่มเป็น 24.07% (ปี 64 สัดส่วน 23.80%)
*** แต่มีเพียง 23 หุ้น ผลตอบแทนเป็นบวก
อย่างไรก็ตาม เมื่อสำรวจผลตอบแทนราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปี (YTD) ของ 61 บริษัทดังกล่าว พบว่าให้ผลตอบแทนติดลบเฉลี่ย 0.65% โดยมีเพียง 23 บริษัท ที่ให้ผลตอบแทนราคาหุ้นเป็นบวก ประกอบด้วย
23 หุ้น SET100 ถูก NVDR เพิ่มน้ำหนักลงทุน ผลตอบแทนราคา YTD เป็นบวก
|
ชื่อย่อหุ้น
|
ราคาล่าสุด (บ.)
|
%chg YTD
|
FORTH
|
59.5
|
180.66
|
BH
|
216
|
53.19
|
PTTEP
|
167
|
41.53
|
SPRC
|
12.9
|
31.63
|
KTB
|
16.8
|
27.27
|
BDMS
|
29.25
|
27.17
|
CRC
|
39.75
|
24.22
|
TOP
|
59.25
|
19.70
|
KKP
|
71.5
|
19.67
|
AWC
|
5.5
|
18.53
|
JMT
|
76.5
|
11.68
|
GULF
|
51
|
11.48
|
MINT
|
31
|
7.83
|
KBANK
|
152.5
|
7.39
|
THANI
|
4.62
|
5.48
|
CPN
|
59
|
4.42
|
CHG
|
3.8
|
3.83
|
AP
|
9.9
|
3.66
|
EGCO
|
181.5
|
3.42
|
RATCH
|
43.5
|
1.85
|
MEGA
|
51.25
|
1.49
|
CPALL
|
59.75
|
1.27
|
WHA
|
3.56
|
1.14
|
*ราคาปิดล่าสุด 5 ส.ค.65
|
*** "หุ้นพลังงานฯ" ผลตอบแทนบวกมากสุด
23 บริษัทดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นหุ้นในกลุ่มธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค จำนวน 6 บริษัท รองลงมาเป็นหุ้นในกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 4 บริษัท ส่วนหุ้นในกลุ่มธุรกิจการแพทย์, ธนาคารพาณิชย์ และพาณิชย์ ติดโผจำนวน 3 บริษัท เท่ากัน
*** แต่"FORTH" ให้ผลตอบแทนสูงสุด 180.66%
ขณะที่ บมจ.ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น (FORTH) เป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทน YTD สูงสุดถึง 180.66% รองลงมา คือ บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) ที่ให้ผลตอบแทน 53.19%
ทั้งนี้ มีอีก 5 บริษัท ที่ให้ผลตอบแทน YTD มากกว่า 20% ประกอบด้วย บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ที่ให้ผลตอบแทน 41.53%, บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) ที่ให้ผลตอบแทน 31.63%
ปิดท้ายด้วย ธนาคารกรุงไทย (KTB) ที่ให้ผลตอบแทน 27.27%, บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) ที่ให้ผลตอบแทน 27.17% และ บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) ที่ให้ผลตอบแทน 24.22%