efinancethai

ประเด็นร้อน

6 หุ้นแบงก์ ถูกเพิ่ม - ลดเป้ากำไร - ราคาเป้าหมาย หลังงบ Q2/65

6 หุ้นแบงก์ ถูกเพิ่ม - ลดเป้ากำไร - ราคาเป้าหมาย หลังงบ Q2/65

6 หุ้นกลุ่มธนาคาร ถูกโบรกเกอร์ปรับเพิ่ม - ลดเป้ากำไร - ราคาเป้าหมายปี 65 หลังประกาศงบ Q2/65 พบ KTB ถูกอัพเป้ากำไรสูงสุด 2 - 24% เป็น 2.7 - 3.1 หมื่นลบ. โต 27 - 48% ขณะที่ ราคาเป้าหมายถูกอัพขึ้นอีก 1.8 - 5 บ./หุ้น เป็น 15 - 16.4 บ./หุ้น ส่วน SCB - BBL ถูกหั่นเป้ากำไรลงมากสุด 5 - 9% วงการชี้ดอกเบี้ยขาขึ้น หนุนงบแบงก์ครึ่งปีหลังแจ่ม 
 

*** โค้งสองแบงก์กำไร 4.35 หมื่นลบ. โต 22%
 

ล่าสุดหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/65 โดยมีกำไรสุทธิรวม 4.35 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 22% จากปีก่อน แต่ลดลง 2% จากไตรมาสก่อน มีสาเหตุหลักจากต้นทุนสินเชื่อที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงไตรมาส 2/65 เมื่อเทียบกับปีก่อน 


*** 6 หุ้นแบงก์ถูกปรับเป้ากำไร - ราคาเป้าหมาย
 

ทั้งนี้ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" จึงได้สำรวจบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หลังจากที่กลุ่มหุ้นธนาคารพาณิชย์ประกาศงบการเงินไตรมาส 2/65 พบว่า มีธนาคารพาณิชย์ 6 แห่ง ที่ถูกโบรกเกอร์ ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 และ ราคาเหมาะสม ขึ้น และ ลงใหม่ ดังนี้ 
 

โบรกฯปรับเป้ากำไร – ราคาเป้าหมายหุ้นแบงก์ หลังประกาศงบ Q2/65

ชื่อย่อหุ้น

บล.

กำไรสุทธิปี 65 ใหม่ (ลบ.)

%chg.

ราคาเหมาะสมใหม่ (บ.)

เปลี่ยนแปลง (บ.)

KTB

ทรีนีตี้

30,656

24

17.70

2.10

โนมูระฯ

31,920

18

20.00

5.00

เอเชีย พลัส

29,325

13

18.00

2.00

เคทีบีฯ

29,695

4

18.00

2.00

ฟินันเซียฯ

27,322

2

18.20

1.80

KKP

เอเชีย พลัส

7,710

14

71.00

-3.00

KBANK

เมย์แบงก์ฯ

42,125

2

185.00

0.00

ไทยพาณิชย์

44,405

1

176

1.00

SCB

ทรีนีตี้

39,672

-9

140

0.00

เคทีบีฯ

37,385

-5

125

-25.00

BBL

ทรีนีตี้

27,843

-9

156

-9.00

บัวหลวง

31,000

-5

156

-7.00

TTB

ฟินันเซียฯ

12,563

-5

1.4

-0.40

ดีบีเอสฯ

12,871

-4

1.33

-0.44

ที่มา : บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หลังประกาศงบไตรมาส 2/65













































*** KTB ถูกอัพเป้ากำไร - ราคาเป้าหมายขึ้นสูงสุด

ธนาคารกรุงไทย (KTB) เป็นหุ้นแบงก์ที่ถูกนักวิเคราะห์ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 และ ราคาเป้าหมายขึ้นมากที่สุด โดยกำไรสุทธิถูกปรับขึ้นจากเดิมอีก 2 - 24% เป็น 2.7 - 3.1 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 27 - 48% จากปีก่อน ขณะที่ ราคาเหมาะสมใหม่ถูกปรับขึ้นอีก 1.8 - 5 บาท/หุ้น เป็น 15 - 16.4 บาท/หุ้น 

สาเหตุที่ทำให้ KTB ถูกปรับประมาณการณ์ขึ้นสูงสุด เนื่องจากกำไรสุทธิงวดไตรมาส 2/65 ที่ประกาศออกมา ดีกว่าตลาดคาดไว้ถึง 23% จากการตั้งสำรองฯที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งรายได้ค่าธรรมเนียม ยังเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์ของตลาดราว 200 ล้านบาท โดย KTB ทำได้ 4.9 พันล้านบาท 
 

*** KKP ถูกอัพเป้ากำไรอีก 14% แต่หั่นราคา 3 บ./หุ้น
 

ขณะที่ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) ถูกปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ขึ้นจากเดิมอีก 14% เป็น 7.7 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 22% จากปีก่อน เนื่องจากกำไรสุทธิไตรมาส 2/65 ดีกว่าตลาดคาดการณ์ไว้ 8.4% จากการตั้งสำรองฯที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง 

อย่างไรก็ตาม บล.เอเซีย พลัส ได้ลดคำแนะนำ KKP ลงเหลือแค่ "Switch" (เดิม"ถือ") พร้อมทั้งปรับลดราคาเหมาะสมลงอีก 3 บาท/หุ้น เหลือ 71 บาท/หุ้น แม้ว่าจะปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ขึ้นจากประเด็นข้างต้นก็ตาม แต่ในระยะถัดไป KKP จะถูกกดดันจากเทรด์ดอกเบี้ยขาขึ้น กระทบต้นทุนธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ที่ไม่สามารถผลักภาระให้ลูกหนี้ได้

ส่วน ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ถูกปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ขึ้นจากเดิมอีก 1 - 2% เป็น 4.2 - 4.4 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 11 - 17% จากปีก่อน ขณะที่ ราคาเป้าหมายใหม่ ถูกนักวิเคราะห์ ปรับขึ้นจากเดิมอีก 1 บาท/หุ้น เป็น 176 - 185 บาท/หุ้น 

สาเหตุหลักที่ KBAK ถูกปรับประมาณการกำไรสุทธิ และ ราคาเป้าหมายขึ้น มีปัจจัยหนุนจากกำไรสุทธิไตรมาส 2/65 ที่เติบโตโดดเด่น อีกทั้งมีการปรับเพิ่มสมมติฐานรายได้ดอกเบี้ย ตามทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น ที่ส่งผลดีต่อธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่มากกว่าขนาดกลาง - เล็ก เพราะมีสินเชื่อที่ปรับขึ้นดอกเบี้ยได้มากกว่า 
 

*** พบ 3 หุ้นแบงก์ ถูกหั่นเป้ากำไร - ราคาเป้าหมาย
 

ขณะเดียวกัน มีหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์อีก 3 แห่ง ที่ถูกโบรกเกอร์ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 - และ ราคาเป้าหมายลง หลังประกาศงบการเงินไตรมาส 2/65 ประกอบด้วย บมจ.เอสซีบี เอกซ์ (SCB) ที่ถูกปรับลดกำไรสุทธิปี 65 ลงจากเดิม 5 - 9% เหลือ 3.7 - 3.9 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 5 - 11% จากปีก่อน 

ส่วนราคาเป้าหมายใหม่ของ SCB ถูกปรับลง 25 บาท/หุ้น เหลือ 125 - 140 บาท/หุ้น เนื่องจากมีการตั้งสำรองฯที่สูงกว่าตลาดคาดการณ์ราว 1 พันล้านบาท อยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท เพราะเห็นความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งผู้บริหารยังปรับเป้าหมายทางการเงินในช่วงครึ่งปีหลังลดลงอีกด้วย 

ฟาก ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ถูกปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ลงจากเดิม 5 - 9% เหลือ 2.7 - 3.1 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 5 - 17% จากปีก่อน ขณะที่ ราคาเป้าหมายใหม่ ถูกปรับลงจากเดิมอีก 7 - 9 บาท/หุ้น เหลือ 156 บาท/หุ้น มีเหตุผลหลักจากกำไรสุทธิไตรมาส 2/65 ต่ำกว่าคาดการณ์ 6% อีกทั้งรายได้ค่าธรรมเนียมยังมีแนวโน้มอ่อนตัวต่อเนื่อง

ปิดท้ายด้วย ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) ที่ถูกปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ลงจากเดิม 4 - 5% เหลือ 1.25 - 1.28 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 20 - 23% จากปีก่อน ขณะที่ ราคาเป้าหมายใหม่ ถูกปรับลงจากเดิมอีก 0.4 - 0.44 บาท/หุ้น เหลือ 1.33 - 1.4 บาท/หุ้น มีสาเหตุหลักจากความสามารถการชำระหนี้ของลูกหนี้กลุ่ม SME ที่มีแนวโน้มลดลง จากเทรนด์ดอกเบี้ยขาขึ้น
 

*** กูรูมองครึ่งปีหลังโตต่อ ดอกเบี้ยขาขึ้นหนุน

 
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) มองว่า ผลการดำเนินงานของหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ช่วงครึ่งหลังของปี 65 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง มีปัจจัยหนุนจากการขยายตัวของสินเชื่อทีมีแนวโน้มสูงขึ้น ตามความต้องการลงทุนของบริษัทขนาดใหญ่ และการกลับมาดำเนินธุรกิจของ SME หลังการแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลาย

อีกทั้ง ยังคาดว่า จะเริ่มเห็นธนาคารพาณิชย์ปรับขึ้นดอกเบี้ยมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ Asset Yield ปรับขึ้นตาม โดยมองว่าธนาคารขนาดใหญ่ ยังได้รับประโยชน์มากกว่าธนาคารขนากลาง – เล็ก เนื่องจากมีสัดส่วนสินเชื่อที่ดอกเบี้ยคงที่ อย่างสินเชื่อเช่าซื้อในสัดส่วนต่ำ ทำให้สามารถขยับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ได้เร็วกว่า

ส่วน บล.เอเซีย พลัส ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เริ่มเห็นสัญญาการปรับขึ้นดอกเบี้ยจากกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ในผลิตภัณฑ์สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ที่มีแผนปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นราว 0.1 – 0.2% สำหรับสัญญาเช่าซื้อใหม่ เพื่อรองรับต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนุนผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

แบบสอบถามความพึงพอใจ






ข่าวหุ้นอื่นๆที่น่าสนใจ

RECOMMENDED NEWS

ข่าวหุ้นยอดนิยม

Refresh




LATEST NEWS

ข่าวหุ้นล่าสุด

Refresh

ดูข่าวทั้งหมด