5 โบรกเกอร์ มอง SET ต.ค. Side way กรอบ 1,520 - 1,650 จุด หลัง Fed คงท่าทีขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องสกัดเงินเฟ้อ เป็น Sentiment กดหุ้น แต่มองดาวน์ไซด์จำกัด หลังเดือนก่อน SET ปรับฐานแรงแล้ว กางโผ 22 หุ้นเด่นเดือน ต.ค. เน้นกลุ่มกำไร Q3/65 โตแจ่ม ยก "ADVANC" - "CPALL" - "KBANK" - TU" แจ่มสุด ส่วน "TIDLOR" อัพไซด์สูงลิ่วถึง 53%
*** กูรูมอง SET ต.ค. Side way กรอบ 1,520 - 1,650 จุด
"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" สำรวจกลยุทธ์ลงทุนเดือน ต.ค.65 จากโบรกเกอร์ 5 แห่ง พบส่วนใหญ่มองว่า แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในอัตราเร่งต่อเนื่อง หลังเศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่ภาวะชะลอตัว และเงินบาทอ่อนค่า เป็นปัจจัยกดดันหุ้นไทย Side way โดยประเมินกรอบดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ดังนี้
บล.
|
เป้าดัชนี
|
ทรีนีตี้
|
1,550 - 1,650
|
ฟินันเซียฯ
|
1,575 - 1,640
|
ยูโอบีฯ
|
1,580 - 1,630
|
ดาโอ
|
1,550 - 1,630
|
ไอร่า
|
1,520 - 1,630
|
"กิจพณ ไพรไพศาลกิจ" ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักลงกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ประเมินกรอบ SET Index เดือน ค.ค. ที่ 1,580 - 1,630 จุด โดยมองว่าครึ่งเดือนแรกดัชนียังไม่สามารถ Outperform ได้ เพราะยังถูกปัจจัยลบ อย่างภาวะเศรษฐกิจโลลดชะลอตัวกดดัน อย่างไรก็ตาม คาดดัชนีจะฟื้นช่วงครึ่งเดือนหลัง เพราะตลาดรับรู้ปัจจัยลบจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวมากแล้ว
สอดคล้องกับ"ณรงค์เดช จันทรไพศาล" ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า ที่ประเมินกรอบ SET Index เดือน ต.ค.ที่ 1,520 - 1,630 จุด โดยมองว่า เดือนนี้ดัชนีจะเคลื่อนไหวออกข้าง Side way down เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน แต่เดือนที่แล้ว SET Index ปรับฐานจากประเด็นดอกเบี้ยสูง และบาทอ่อนไปมากแล้ว
ขณะที่ ปัจจัยที่ต้องติดตามในเดือน ต.ค. ยังเป็นปัจจัยภายนอก อย่าง การประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันลงวันละ 1 ล้านบาร์เรล/วัน ของกลุ่ม OPEC และตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.ย. ของประเทศยักษ์ใหญ่ ถ้าเริ่มลดลงจากเดือนก่อน จะทำให้ตลาดคลายความกังวลการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในอัตราเร่งของ Fed ลงได้บ้าง
ด้าน"ณัฐชาต เมฆมาสิน" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ ประเมินกรอบ SET Index เดือน ต.ค. ที่ 1,550 - 1,650 จุด โดยคาดดัชนีเดือนนี้ยังแกว่งตัว Sideways ในช่วงต้นเดือนอาจเผชิญอุปสรรคจากปัจจัยต่างประเทศเดิม คือ ท่าทีขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในอัตราเร่งของ Fed
ดังนั้น หากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่จะออกมาในเดือนตุลาคมบ่งชี้ไปในทิศทางเดียวกันถึงความร้อนแรงทางด้านเงินเฟ้อที่มาจากแรงผลักดันทางด้านอุปสงค์ มีความเป็นไปได้สูงที่ในช่วงแรกเงินดอลลาร์และ Bond yield สหรัฐฯจะปรับตัวขึ้นต่อ ซึ่งก็จะส่งผลกระทบทางอ้อมต่อตัวแปรสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ ได้
สำหรับ เหตุการณ์สำคัญที่น่าติดตามในเดือนนี้ได้แก่ การประชุมของพรรคคอมมิวนิสต์ของจีนซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. โดยคาดว่าจะมีการต่ออายุการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ออกไปอีกเป็นสมัยที่ 3 และต้องจับตาดูว่าจะมีการผ่อนปรนมาตรการ Zero-Covid หรือไม่ ซึ่งหากไม่เกิดขึ้น อาจเป็น Sentiment เชิงลบต่อตลาดหุ้นจีนได้เช่นกัน
ฟาก บทวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินกรอบ SET Index เดือน ต.ค. ที่ 1,575 - 1,640 จุด โดยดัชนียังมีความผันผวน แต่คาด Downside แคบลง หลังก่อนหน้านี้ดัชนีปรับฐานแรงพอสมควรไปแล้ว จากแนวโน้มเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่สูงและยาวนานกว่าที่ตลาดประเมินไว้ ส่วนปัจจัยที่ยังต้องติดตาม คือ ตัวเลขเศรษฐกิจทั่วโลก และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไตรมาส 3/65 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์
ส่วนบทวิเคราะห์ บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ประเมินกรอบ SET Index เดือน ต.ค. ที่ 1,550 - 1,630 จุด คาดดัชนียังผันผวนจากการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางต่างๆ ที่อาจฉุดเศรษฐกิจให้เข้าสู่ภาวะถดถอย รวมถึงเงินดอลลาร์แข็งค่ากดดันทั้งเงินบาท และค่าเงินสกุลอื่นให้อ่อนค่า อีกทั้งปัญหายูเครน-รัสเซีย ยังไม่ได้จบลง จึงยังมีผลต่อราคาพลังงานอยู่
*** เปิดโผ 22 หุ้นเด่น เดือน ต.ค.เน้นธีมกำไร Q3/65 แจ่ม
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณากลยุทธ์การลงทุนเดือน พ.ค.65 ของโบรกเกอร์ทั้ง 5 แห่ง จะพบว่า มีกลยุทธ์หลัก คือ แนะนำหุ้นที่คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 3/65 มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่ง รองลงมา คือ หุ้นที่ถูกคาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากการเปิดเมือง และอานิสงส์เทรนด์ดอกเบี้ยขาขึ้นโดยมีหุ้นแนะนำทั้งหมด 22 บริษัท ซึ่งมีอัพไซด์ 10% ขึ้นไป ประกอบด้วย
5 โบรกฯชี้เป้า 22 หุ้นเด่นเดือน ต.ค.
|
บล.
|
ชื่อย่อหุ้น
|
เหตุผล
|
ราคาเหมาะสม (บ.)
|
%อัพไซด์
|
ทรีนีตี้
|
TIDLOR
|
กำไร Q3/65 โตแจ่ม
|
40.1
|
53
|
PLANB
|
อานิสงส์เปิดเมือง
|
8.56
|
26
|
ADVANC
|
อานิสงส์เปิดเมือง
|
241
|
26
|
TLI
|
กำไร Q3/65 โตแจ่ม
|
19.3
|
24
|
KBANK
|
อานิสงส์ดอกเบี้ยขึ้น
|
168
|
20
|
DTAC
|
อานิสงส์เปิดเมือง
|
52.35
|
16
|
ฟินันเซียฯ
|
CPALL
|
กำไร Q3/65 โตแจ่ม
|
82
|
51
|
TU
|
กำไร Q3/65 โตแจ่ม
|
24.5
|
35
|
BBL
|
อานิสงส์ดอกเบี้ยขึ้น
|
170
|
28
|
CK
|
กำไร Q3/65 โตแจ่ม
|
25
|
15
|
BDMS
|
ผู้ป่วยตปท.ฟื้นไวกว่าคาด
|
31
|
10
|
ดาโอ
|
KBANK
|
กำไร Q3/65 โตแจ่ม
|
190
|
35
|
GFPT
|
กำไร Q3/65 โตแจ่ม
|
19
|
34
|
EPG
|
กำไร Q3/65 โตแจ่ม
|
12
|
28
|
BEM
|
กำไร Q3/65 โตแจ่ม
|
10.2
|
15
|
BH
|
กำไร Q3/65 โตแจ่ม
|
245
|
10
|
ยูโอบีฯ
|
TU
|
อานิสงส์บาทอ่อน
|
24
|
32
|
OR
|
กำไร Q3/65 โตแจ่ม
|
33
|
29
|
ADVANC
|
หุ้นปลอดภัย
|
244
|
27
|
GUNKUL
|
กำไร Q3/65 โตแจ่ม
|
6.13
|
17
|
PTG
|
กำไร Q3/65 โตแจ่ม
|
17.8
|
15
|
ไอร่า
|
SHR
|
ท่องเที่ยวไฮซีซั่น
|
3.7
|
16
|
MINT
|
ท่องเที่ยวไฮซีซั่น
|
30
|
14
|
MAKRO
|
อานิสงส์เปิดเมือง
|
36
|
13
|
CPALL
|
อานิสงส์เปิดเมือง
|
59
|
10
|
BJC
|
อานิสงส์เปิดเมือง
|
34
|
10
|
*อัพไซด์เทียบราคาปิด 3 ต.ค.65
|
หุ้น 22 บจ.ดังกล่าว ส่วนใหญ่ เป็นบริษัทในดัชนี SET100 มากถึง 19 บริษัท โดยกลุ่มธุรกิจพาณิชย์, พลังงานและสาธารณูปโภค และ อาหารและเครื่องดื่ม ติดโผมากสุด จำนวน 3 บริษัทเท่ากัน รองลงมา คือกลุ่มธุรกิจธนาคารพาณิชย์ และการแพทย์ ที่ติดโผ จำนวน 2 บริษัท เท่ากัน
*** ยก "ADVANC" - "CPALL" - "KBANK" - TU" แจ่มสุด
โดยเดือน ต.ค.นี้ มีหุ้น 4 บริษัท ที่มีนักวิเคราะห์แนะนำตรงกันมากที่สุด 2 แห่ง ประกอบด้วย บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ที่ถูกมองว่า ผลการดำเนินงานจะเร่งตัวขึ้นจากการเปิดเมือง และถูกมองเป็นหุ้นปลอดภัย, บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) ถูกมองว่าจะได้รับอานิสงส์จากการเปิดเมืองต่อเนื่อง ส่งผลให้กำไรสุทธิไตรมาส 3/65 มีแนวโน้มเติบโตแกร่ง
ด้าน ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ถูกมองว่าได้รับอานิสงส์เทรด์ดอกเบี้ยขึ้น และกำไรสุทธิไตรมาส3/65 มีแนวโน้มเติบโตแกร่ง และ บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) ที่ถูกมองว่า จะได้รับอานิสงส์จากเงินบาทอ่อนค่า ส่งผลให้กำไรสุทธิไตรมาส 3/65 มีแนวโน้มเติบโตอย่างโดดเด่น
*** พบ "TIDLOR" ราคาหุ้นมีอัพไซด์สูงสุดถึง 53%
ขณะที่ บมจ.เงินติดล้อ (TIDLOR) เป็นหุ้นที่มีอัพไซด์สูงสุดถึง 53% นอกจากนี้ ยังมีอีก 4 บริษัท ที่ราคาหุ้นมีอัพไซด์มากกว่า 30% ประกอบด้วย บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) ที่ราคาหุ้นมีอัพไซด์ 9 - 51%, บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) ราคาหุ้นมีอัพไซด์ 32 - 35%
ปิดท้ายด้วย ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ที่ราคาหุ้นมีอัพไซด์ 20 - 35% และ บมจ.จีเอฟพีที (GFPT) ราคาหุ้นมีอัพไซด์ 34%