6 โบรกฯ มองแนวโน้ม Fed ชะลอขึ้นดอกเบี้ย - เศรษฐกิจไทยเข้าไฮซีซั่น หนุน Flow ยังไหลเข้า ดันหุ้นแกว่ง Sideway กรอบ 1,610 - 1,690 จุด พร้อมเปิดโผ 25 หุ้นเด่นเดือน ธ.ค. เน้นกลุ่มงบ Q4/65 แกร่ง ยก BBL แจ่มสุด ส่วน AP เหลืออัพไซด์สูงสุดถึง 53.47%
*** ลุ้น Fed ชะลอขึ้นดอกเบี้ย หนุนหุ้นไปต่อ
"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" สำรวจกลยุทธ์การลงทุนเดือน ธ.ค.65 จากนักวิเคราะห์ 6 โบรเกอร์ พบส่วนใหญ่มองว่า แนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ที่ชะลอตัวลง และเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว จะเป็นแรงเสริมให้เงินทุนต่างประเทศ (Fund Flow) ไหลเข้าหุ้นไทยต่อเนื่อง โดยประเมินกรอบดัชนีไว้ดังนี้
บล.
|
กรอบดัชนี (จุด)
|
ยูโอบีฯ
|
1,620 - 1,690
|
เอเชีย พลัส
|
1,610 - 1,680
|
เมย์แบงก์ฯ
|
1,610 - 1,670
|
ดาโอ
|
1,610 - 1,670
|
ฟินันเซียฯ
|
1,610 - 1,670
|
ไอร่า
|
1,614 - 1,650
|
"กิจพณ ไพรไพศาลกิจ" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ประเมินกรอบ SET Index เดือน ธ.ค. เคลื่อนไหวในกรอบ 1,620 - 1,690 จุด โดยมองว่าความเสี่ยงในตลาดหุ้นไทยเริ่มผ่อนคลายลง ตามสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง
ประเด็นดังกล่าว จะช่วยหนุนให้นักลงทุนต่างประเทศยังมีสถานะซื้อสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ นักลงทุนสถาบันในประเทศ ที่จะมีสถานะพลิกกลับมาซื้อสุทธิอีกครั้ง หลังเป็นช่วงที่ต้องใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี
ด้าน"เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม" ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล. เอเซียพลัส ประเมินกรอบ SET Index เดือน ธ.ค. เคลื่อนไหวในกรอบ 1,610 - 1,680 จุด โดยบรรยากาศการลงทุนในเดือน ธ.ค. มีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้น มีปัจจัยหนุนจากการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของ Fed ที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง ตามการชะลอตัวลงของอัตราเงินเฟ้อ หนุนให้เม็ดเงินลงทุนยังไหลเข้าตลาดหุ้นไทยได้ต่อ
ฟาก"วิจิตร อารยะพิศิษฐ" ผู้อำนวยการอาวุโส บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประเมินกรอบ SET Index เดือน ธ.ค. เคลื่อนไหวในกรอบ 1,610 - 1,670 จุด โดยภาพรวมการลงทุนผ่อนคลายมากขึ้น จากเศรษฐกิจในประเทศเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ตามการท่องเที่ยวฟื้นตัว และการบริโภคที่เร่งตัวขึ้น
ส่วนปัจจัยหนุนจากต่างประเทศ คาดได้แรงเสริมจากแนวโน้ม Fed ชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หลังก่อนหน้านี้ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างแรงมากแล้ว และเงินเฟ้อในประเทศเริ่มควบคุมได้มากขึ้น ปัจจัยดังกล่าว จะทำให้เงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้น หนุน Fund Flow ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง
ขณะที่"ณรงค์เดช จันทรไพศาล" ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า ประเมินกรอบ SET Index เดือน ธ.ค. เคลื่อนไหวในกรอบ 1,614 - 1,650 จุด โดยคาดว่าเดือนดังกล่าวปริมาณการซื้อขายจะเบาบางลง เพราะเป็นช่วงสุดท้ายของปี อย่างไรก็ตาม คาดว่า การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯช่วงกลางเดือน จะเห็นการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในอัตราชะลอตัวลง ซึ่งจะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อเศรษฐกิจเอเชีย และตลาดหุ้นไทย
ส่วน บทวิเคราะห์ บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ประเมินกรอบ SET Index เดือน ธ.ค. เคลื่อนไหวในกรอบ 1,610 - 1,670 จุด โดยคาดดัชนีมีโอกาสรีบาวด์ จากการประชุม Fed ที่จะจัดขึ้นช่วงกลางเดือน เพราะคาดจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.5% เท่านั้น และเริ่มชะลอการขึ้นดอกเบี้ยลงในปีหน้า
นอกจากนี้ ยังต้องจับตาการประชุม OPEC ในช่วงต้นเดือน ว่าจะมีการลดกำลังการผลิตน้ำมันหรือไม่ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบยังปรับตัวลงต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจาก Demand ของจีนที่ลดลงจากมาตรการควบคุมโควิด-19 หากสถานการณ์ดังกล่าวในจีนดีขึ้น ตลาดหุ้นจะพลิกตัวกลับทันที ส่วนประเทศไทยังได้แรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยว และเงินบาทแข็งค่า
เช่นเดียวกับ บทวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ที่ประเมินกรอบ SET Index เดือน ธ.ค. เคลื่อนไหวในกรอบ 1,610 - 1,670 จุด มีปัจจัยหนุนจากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว และคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 1.25% สะท้อนความเชื่อมั่นว่าพร้อมกับการรับมือดอกเบี้ยขาขึ้น
ประกอบกับ Fed มีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในอัตราที่ชะลอลง ทำให้เงินดอลลาร์ และ Bond Yield อ่อนตัวลง หนุนให้กระแสเงินทุนต่างประเทศ ยังคงไหลเข้าตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง
*** เปิดโผ 25 หุ้นเด่น เดือน ธ.ค.เน้นธีมกำไร Q4/65 แจ่ม
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณากลยุทธ์การลงทุนเดือน ธ.ค.65 ของโบรกเกอร์ทั้ง 6 แห่ง จะพบว่า มีกลยุทธ์หลัก คือ แนะนำหุ้นที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/65 มีแนวโน้มเติบโตแกร่ง รองลงมา คือ หุ้นที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยมีหุ้นแนะนำทั้งหมด 25 บริษัท ซึ่งมีอัพไซด์ 10% ขึ้นไป ประกอบด้วย
6 โบรกฯชี้เป้า 23 หุ้นเด่นเดือน ธ.ค.
|
บล.
|
ชื่อย่อหุ้น
|
ราคาเหมาะสม (บ.)
|
%อัพไซด์*
|
เอเชีย พลัส
|
COM7
|
47.5
|
49.61
|
KTB
|
20.3
|
15.34
|
CRC
|
48
|
11.63
|
CK
|
27
|
10.05
|
ดาโอ
|
SNNP
|
30
|
45.63
|
SEAFCO
|
4.5
|
25.00
|
KCE
|
58
|
20.21
|
PORT
|
2.6
|
19.27
|
เมย์แบงก์ฯ
|
BBIK
|
144.7
|
23.68
|
JMT
|
81.61
|
21.81
|
CPALL
|
79
|
21.54
|
PLANB
|
9.6
|
18.52
|
BCH
|
22.58
|
11.23
|
ยูโอบีฯ
|
MAJOR
|
24
|
22.45
|
EGCO
|
200
|
16.62
|
BBL
|
168
|
16.67
|
MINT
|
35
|
13.82
|
CPALL
|
73
|
12.31
|
GUNKUL
|
6
|
12.15
|
ฟินันเซียฯ
|
BBL
|
170
|
18.06
|
M
|
66
|
17.33
|
MAJOR
|
22
|
12.24
|
BDMS
|
33
|
10.28
|
ไอร่า
|
KBANK
|
185.4
|
28.30
|
BBL
|
170
|
18.06
|
BJC
|
39.6
|
15.62
|
MAKRO
|
42
|
10.11
|
*อัพไซด์เทียบราคาปิด 30 พ.ย.65
|
*** ยก"BBL" แจ่มสุด แนะตรงกัน 3 แห่ง
25 บริษัทดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นหุ้นในดัชนี SET100 มากสุดถึง 20 บริษัท โดยหุ้นในกลุ่มธุรกิจพาณิชย์ติดโผมากสุด จำนวน 5 บริษัท รองลงมา คือ หุ้นในกลุ่มธุรกิจธนาคารพาณิชย์ และอาหารและเครื่องดื่ม ที่ติดโผ จำนวน 3 บริษัท เท่ากัน
โดยเดือน ธ.ค.นี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่แนะนำหุ้น ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ตรงกันมากที่สุดถึง 4 โบรกฯ รองลงมา คือ บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) และ บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) ที่มีนักวิเคราะห์แนะนำตรงกัน 2 แห่ง
*** พบ "AP" เหลืออัพไซด์สูงสุดถึง 53.47%
ด้าน บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) หรือ AP เป็นบริษัทที่ราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน มีอัพไซด์มากที่สุดถึง 53.47% รองลงมา คือ บมจ.บมจ.คอมเซเว่น (COM7) ที่มีอัพไซด์ 49.61%
นอกจากนี้ ยังมีอีก 9 บริษัท ที่ราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน มีอัพไซด์มากกว่า 20% ประกอบด้วย บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) ที่มีอัพไซด์ 45.63%, ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มีอัพไซด์ 28.30%, บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) มีอัพไซด์ 27.03%, บมจ.ซีฟโก้ (SEAFCO) มีอัพไซด์ 25%, บมจ.บลูบิค กรุ๊ป (BBIK) มีอัพไซด์ 23.68%
ฟาก บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) มีอัพไซด์ 22.45%, บมจ. เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) มีอัพไซด์ 21.81%, บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) มีอัพไซด์ 21.51% และ บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ (KCE) มีอัพไซด์ 20.21%