หุ้นแบงก์ประกาศกำไร Q3/65 รวม 5.4 หมื่นลบ. โต 28% หลังรายได้ดอกเบี้ยฟื้น ตั้งสำรองฯลด พบ 6 หุ้นถูกปรับเป้ากำไร - ราคาเหมาะสม "KTB" ถูกอัพเป้ากำไรสูงสุดอีก 11 - 13% คาดกำไรปีนี้โต 56 - 57% ส่วน "KBANK" โดนหั่นเป้ากำไรมากสุด 3.3% เหลือ 4.34 หมื่นลบ. โต 14% หลังงบ Q3/65 ต่ำคาด แถมตั้งสำรองฯยังกดไม่ลง

*** แบงก์ฟันกำไร Q3/65 รวม 5.4 หมื่นลบ. โต 28%
 

ล่าสุด หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ประกาศงบการเงินไตรมาส 3/65 มีกำไรสุทธิรวม 5.4 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 4.2 หมื่นล้านบาท 

ขณะที่ กำไรสุทธิ 9 เดือนของหุ้นกลุ่มดังกล่าว รวมกันอยู่ที่ 1.59 แสนล้านบาท เติบโตขึ้น 14% จากปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 1.4 แสนล้านบาท โดยปัจจัยหนุนการเติบโตของปีนี้ มีสาเหตุหลักจากรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น และการตั้งสำรองหนี้สูญลดลง
 

*** พบ 6 หุ้นแบงก์ถูกโบรกฯปรับเป้ากำไร - ราคาเหมาะสม
 

ทั้งนี้ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" สำรวจบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หลังหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ประกาศงบการเงินไตรมาส 3/65 เสร็จสิ้น พบ 6 หุ้นในกลุ่มดังกล่าว ถูกนักวิเคราะห์ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 และราคาเหมาะสมขึ้น และลง ประกอบด้วย 
 

*** "KTB"ถูกโบรกฯอัพเป้ากำไรสูงสุด 11 - 13%
 

ธนาคารกรุงไทย (KTB) เป็นหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่ถูกนักวิเคราะห์ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ขึ้นจากเดิมมากที่สุดอีก 11 - 13% เป็น 3.36 - 3.39 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 56 - 57% จากปีก่อน อีกทั้ง ยังถูกปรับราคาเหมาะสมขึ้นอีก 2 - 4 บาท/หุ้น เป็น 19 - 20 บาท/หุ้น 

สาเหตุหลักเป็นเพราะ กำไรสุทธิไตรมาส 3/65 ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ จากการปรับ Credit cost ลดลงมาอยู่ที่ 85 bps (เดิม 91 bps) ประกอบกับ มีการใส่กำไรจากเงินลงทุนปีนี้ เพิ่มขึ้นอีก 2 พันล้านบาท อีกทั้งคาดว่าการตั้งสำรองฯในช่วงไตรมาส 4/65 จะลดลง และ ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ NIM จะปรับตัวขึ้นได้ดีต่อเนื่อง 

รองลงมา คือ ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) ที่ถูกปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ขึ้นจากเดิมอีก 5 - 10% เป็น 1.33 - 1.9 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 27 - 33% จากปีก่อน ส่วนราคาเหมาะสมใหม่ ถูกปรับขึ้นจากเดิมอีก 0.05 - 0.07 บาท/หุ้น เป็น 1.4 - 1.55 บาท/หุ้น

สาเหตุหลัก เป็นเพราะกำไรสุทธิไตรมาส 3/65 ดีกว่าตลาดคาดการณ์จากการตั้งสำรองฯที่ลดลงเหลือ 4.4 พันล้านบาท ลดลง 21% จากปีก่อน และลดลง 1% จากไตรมาสก่อน เพราะมีการตั้งเผื่อไปเยอะแล้ว อีกทั้งยังมีกำไรจากเงินลงทุนเข้ามาช่วยหนุนผลประกอบการอีก 433 ล้านบาท มากกว่าปกติที่เฉลี่ยอยู่ราว 100 ล้านบาท 

*** อีก 2 แบงก์ ถูกอัพเป้ากำไร - ราคาเหมาะสม 
 

ขณะเดียวกัน ยังมีธนาคารพาณิชย์อีก 2 แห่ง ที่ถูกนักวิเคราะห์ ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 และ ราคาเหมาะสมขึ้นจากเดิม ประกอบด้วย ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) ที่ถูกปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ขึ้นจากเดิมอีก 7.7 - 8% เป็น 8.17 - 8.19 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 29 - 30% จากปีก่อน 

สาเหตุหลักเป็นเพราะกำไรสุทธิไตรมาส 3/65 ดีกว่าคาด และยังทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) รายไตรมาสด้วย มีปัจจัยหนุนจากรายได้ดอกเบี้ยที่ดีกว่าตลาดคาด 500 ล้านบาท โดยทำได้ 4.8 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 25% จากปีก่อน และเติบโตขึ้น 7% จากไตรมาสก่อน จากสินเชื่อที่เติบโตถึง 17% ตั้งแต่ต้นปี (YTD) 

ฟาก บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) ถูกปรับประมาณการกำไรสุทธิขึ้นจากเดิมอีก 5% เป็น 7.2 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 6% จากปีก่อน ขณะที่ราคาเหมาะสมใหม่ ถูกปรับขึ้นอีก 5 บาท/หุ้น เป็น 125 บาท/หุ้น 

สาเหตุหลักเป็นเพราะการตั้งสำรองฯที่ต่ำกว่าคาด อีกทั้ง นักวิเคราะห์ได้มีการปรับ Credit cost ปี 65 ของ TISCO ลงมาอยู่ที่ 25 bps (เดิม 80 bps) จากการตั้งสำรองฯล่วงหน้าไปมากแล้ว ประกอบกับ มีการจัดการคุณภาพสินทรัพย์ได้ดีขึ้น
 

*** "SCB" - "KBANK" กอดคอโดนหั่นเป้า
 

อย่างไรก็ตาม ยังมีธนาคารพาณิชย์อีก 2 แห่ง ที่ถูกนักวิเคราะห์ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 และราคาเหมาะสมลงจากเดิม ประกอบด้วย บมจ.เอสซีบี เอกซ์ (SCB) ที่ถูกนักวิเคราะห์ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ลงจากเดิม 1% เหลือ 4.07 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 14% จากปีก่อน แต่ยังคงราคาเหมาะสมไว้ที่ 144 บาท/หุ้น ตามเดิม เพราะภาษีจ่ายที่สูงกว่าคาด

ปิดท้ายด้วย ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ที่ถูกปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ลงจากเดิม 3.3% เหลือ 4.34 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 14% จากปีก่อน ขณะที่ราคาเหมาะสมใหม่ ถูกปรับลงจากเดิม 3 บาท/หุ้น เหลือ 187 บาท/หุ้น 

สาเหตุหลักเป็นเพราะกำไรสุทธิไตรมาส 3/65 ที่ประกาศออกมาต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ อีกทั้งประเมินว่า การตั้งสำรองฯของ KBANK ยังมีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับสูงอย่างน้อยถึงปี 66 เนื่องจาก KBANK ต้องตั้งสำรองฯเพื่อรองรับความเสี่ยงในอนาคต และรองรับการปล่อยสินเชื่อกลุ่มลูกหนี้ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น