5 โบรกเกอร์ มอง SET เดือน ส.ค.ยังผันผวนในกรอบ 1,515 - 1,630 จุด แนะจับตาการประกาศงบ Q2/65 เป็นพิเศษ พร้อมเปิดโผ 26 หุ้นเด่นเดือน ส.ค. เน้นกลุ่มคาดกำไร Q2/65 โตแจ่ม พบหุ้นพลังงานฯติดโผเพียบ แต่ยก KTB แจ่มสุดคาดรับอานิสงส์ดอกเบี้ยขึ้น ส่วน RCL อัพไซด์สูงสุด 67%
*** กูรูชี้ SET เดือน ส.ค.ยังผันผวน แนะจับตางบ Q2/65
"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" สำรวจกลยุทธ์การลงทุนเดือน พ.ค.65 จากนักวิเคราะห์ 5 โบรเกอร์ พบส่วนใหญ่มองว่า ดัชนีหุ้นไทย (SET Index) เดือน ส.ค.ยังมีความผันผวน จากการประกาศงบการเงินไตรมาส 2/65 ของบริษัทจดทะเบียน โดยประเมิน SET Index เคลื่อนไหวในกรอบ 1,515 - 1,630 จุด ดังนี้
บล.
|
กรอบดัชนี
|
ทรีนีตี้
|
1,530 - 1,630
|
เคทีบีฯ
|
1,520 - 1,630
|
เอเชีย พลัส
|
1,515 - 1,615
|
ทิสโก้
|
1,520 - 1,610
|
ฟินันเซียฯ
|
1,520 - 1,600
|
"อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล" ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ ประเมินกรอบดัชนีหุ้นไทยเดือน ส.ค.นี้ เคลื่อนไหวในกรอบ 1,520 - 1,610 จุด โดยยังมีปัจจัยกดดัน อาทิ ภาวะเงินเฟ้อ - ต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวขึ้น แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกเสี่ยงถดถอย
ดังนั้น ภายหลังบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/65 จะต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดว่า ทิศทางกำไรสุทธิของตลาดโดยรวม (SET EPS) จะถูกปรับลงหรือไม่ โดย SET EPS ที่ถูกปรับลงทุก ๆ 1% จะคิดเป็นโอกาสปรับลดลง (Downside) ของ SET Index ราว 15 - 16 จุด
ขณะที่ "ณัฐชาต เมฆมาสิน" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ ประเมิน SET Index เดือน ส.ค.นี้ เคลื่อนไหวในกรอบ 1,530 - 1,630 จุด มองการรีบาวด์ขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงปลายเดือนที่ผ่านมาเป็นเพียงปรากฏการณ์ Bear market rally ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในช่วงเศรษฐกิจถดถอย แล้วตลาดมีการ Price in ข่าวร้ายไปมาก จึงมีการปรับตัวผ่อนคลายชั่วครั้งชั่วคราว
ในเชิงกลยุทธ์ ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญสำหรับตัวแปรทางเศรษฐกิจ และตัวแปรทางด้าน Valuation ต่างๆ ด้วยเหตุนี้ จึงแนะนำนักลงทุนที่เข้าสะสมหุ้น บริเวณดัชนี 1,500 - 1,530 จุด และทยอยขายทำกำไรที่ระดับดัชนี 1,580 จุดขึ้นไป ซึ่งเป็นเส้นแบ่งความถูก - แพงของดัชนีที่เคยให้ไว้ก่อนหน้านี้
ด้าน บทวิเคราะห์ บล.เคทีบีเอสที ประเมิน SET Index เดือน ส.ค.นี้ เคลื่อนไหวในกรอบ 1,520 - 1,630 จุด โดยคาดดัชนียังมีความผันผวนต่อ แม้ปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา จะทราบผลการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ไปแล้ว เนื่องจากตลาดยังมีความกังวลต่อการเกิดภาวะศรษฐกิจถดถอย หลังเห็นสัญญาณที่เข้มงวดของธนาคารกลางทั่วโลกมากขึ้น
ขณะที่ ปัจจัยในประเทศที่จะมีผลกระทบต่อ SET Index เดือน ส.ค.นี้ คือ การประกาศงบการเงินไตรมาส 2/65 ของบริษัทจดทะเบียน หากออกมาดีก็จะหนุนตลาด แต่ในทางกลับกันหากออกมาแย่กว่าที่คาดการณ์ก็จะเป็นปัจจัยลบได้ อีกทั้งยังมีปัญหาเงินบาทอ่อนค่ากดดันตลาดอยู่อีกด้วย
ฟาก บทวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ประเมิน SET Index เดือน ส.ค.นี้ เคลื่อนไหวในกรอบ 1,515 - 1,615 จุด โดยในเดือน ส.ค.นี้ ยังเป็นช่วงของการรายงานงบการเงินไตรมาส 2/65 ของบริษัทจดทะเบียน ทำให้ SET Index อาจมีความผันผวนได้บ้าง แต่ตลาดหุ้นไทย ปรับฐานมาพอสมควรแล้วในช่วงที่ผ่านมา หากกำไร บจ.มีดาวน์ไซด์จำกัด อาจเห็น SET Index รีบาวด์กลับ หลังประกาศงบเสร็จ
ส่วน บทวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมิน SET Index เดือน ส.ค.นี้ เคลื่อนไหวในกรอบ 1,520 - 1,600 จุด มองภาพรวมการลงทุนผ่อนคลายมากขึ้น หลังดัชนีปรับฐานแรงในช่วงก่อนหน้านี้ โดยปัจจัยที่ต้องติดตามในเดือนนี้ คือ การประกาศงบการเงินไตรมาส 2/65 ของบริษัทจดทะเบียน ที่คาดจะฟื้นตัวตามการเปิดเมือง
*** เปิดโผ 26 หุ้นเด่น เดือน ส.ค.เน้นงบ Q2/65 แจ่ม
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณากลยุทธ์การลงทุนเดือน ส.ค.65 ของโบรกเกอร์ทั้ง 5 แห่ง จะพบว่า มีกลยุทธ์หลัก คือ แนะนำหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 2/65 เติบโตโดดเด่น และหุ้นที่ถูกคาดว่าผลการดำเนินงานช่วงครึ่งหลังของปี 65 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยมีหุ้นแนะนำทั้งหมด 26 บริษัท ซึ่งมีอัพไซด์ 10% ขึ้นไป ประกอบด้วย
5 โบรกฯชี้เป้า 26 หุ้นเด่นเดือน ส.ค.นี้
|
บล.
|
ชื่อย่อหุ้น
|
เหตุผล
|
ราคาเหมาะสม (บ.)
|
%อัพไซด์*
|
ทิสโก้
|
RCL
|
คาดงบ Q2/65 แจ่ม
|
66
|
67
|
BANPU
|
คาดงบ Q2/65 แจ่ม
|
17.3
|
30
|
CK
|
คาดงบ Q2/65 แจ่ม
|
27.25
|
29
|
COM7
|
คาดงบ Q2/65 แจ่ม
|
40.5
|
22
|
KKP
|
คาดงบ Q2/65 แจ่ม
|
78
|
20
|
EGCO
|
คาดงบ Q2/65 แจ่ม
|
220
|
18
|
SMPC
|
คาดงบ Q2/65 แจ่ม
|
18.5
|
16
|
ฟินันเซียฯ
|
ILINK
|
กำไร H2 โตต่อ
|
12
|
53
|
SC
|
กำไร H2 โตต่อ
|
4.6
|
36
|
BBL
|
กำไร H2 โตต่อ
|
170
|
29
|
NSL
|
คาดงบ Q2/65 แจ่ม
|
21
|
15
|
SAPPE
|
คาดงบ Q2/65 แจ่ม
|
43
|
10
|
เคทีบีฯ
|
CKP
|
ธุรกิจเข้าไฮซีซั่น
|
7.4
|
40
|
MEGA
|
อานิสงส์บาทอ่อน
|
67
|
34
|
JMT
|
กำไร H2 โตต่อ
|
100
|
30
|
TOG
|
คาดงบ Q2/65 แจ่ม
|
10
|
25
|
KTB
|
อานิสงส์ดอกเบี้ยขึ้น
|
18
|
14
|
ทรีนีตี้
|
RATCH
|
หุ้น Defensive play
|
53.25
|
37
|
ADVANC
|
หุ้น Defensive play
|
244
|
21
|
CPALL
|
หุ้น Defensive play
|
72
|
21
|
BDMS
|
หุ้น Defensive play
|
30
|
11
|
เอเชีย พลัส
|
TRUE
|
กำไร H2 ฟื้น
|
5.7
|
19
|
CENTEL
|
อานิสงส์เปิดเมือง
|
50
|
19
|
GPSC
|
กำไร H2 ฟื้น
|
82.5
|
19
|
CRC
|
อานิสงส์เปิดเมือง
|
44.75
|
19
|
BEM
|
อานิสงส์เปิดเมือง
|
10.3
|
18
|
KTB
|
อานิสงส์ดอกเบี้ยขึ้น
|
18
|
14
|
*อัพไซด์เทียบราคาปิด 1 ส.ค.65
|
*** ส่วนใหญ่แนะนำหุ้น SET100 "พลังงาน"เพียบ
26 บจ.ดังกล่าว ส่วนใหญ่ เป็นบริษัทในดัชนี SET100 จำนวน 15 บริษัท โดยกลุ่มธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค ติดโผสูงสุด จำนวน 5 บริษัท รองลงมา คือ หุ้นในกลุ่มพาณิชย์ ที่ติดโผ จำนวน 4 บริษัท
โดยหุ้นในกลุ่มพลังงานฯ ที่ถูกแนะนำทั้ง 5 บริษัท ประกอบด้วย บมจ.บ้านปู (BANPU) เนื่องจากคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2/65 มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น, บมจ.ซีเค พาวเวอร์ (CKP) เนื่องจากธุรกิจหลักกำลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น
ขณะที่ บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) เนื่องจากคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2/65 มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น และ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) เนื่องจากกำไรสุทธิครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นกว่าช่วงครึ่งปีแรก และ บมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH) เนื่องจากถูกมองว่าเป็นหุ้น Deffensive Play
*** โบรกฯยก KTB แจ่มสุด แนะตรงกัน 2 แห่ง
ส่วน ธนาคารกรุงไทย (KTB) เป็นหุ้นที่มีนักวิเคราะห์แนะนำตรงกันมากที่สุดในเดือน ส.ค. จำนวน 2 แห่ง โดยคาดว่าจะได้รับปัจจัยหนุน จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น ขณะที่ ราคาหุ้นที่ซื้อ - ขาย ณ ปัจจุบัน มีอัพไซด์เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมของโบรกเกอร์ราว 14%
*** พบอีกถึง 8 หุ้น มีอัพไซด์ 30% ขึ้นไป
ทั้งนี้ หุ้นเด่นประจำเดือน ส.ค. ของโบรกเกอร์ทั้ง 5 แห่ง จำนวน 26 บริษัท มีถึง 8 บริษัท ที่ราคาหุ้นมีอัพไซด์ 30% ขึ้นไป ประกอบด้วย บมจ.อาร์ ซี แอล (RCL) มีอัพไซด์ 67%, บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น (ILINK) มีอัพไซด์ 53%, บมจ.ซีเค พาวเวอร์ (CKP) มีอัพไซด์ 40%
ขณะที่ บมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH) มีอัพไซด์ 37%, บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) มีอัพไซด์ 36%, บมจ.เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ (MEGA) มีอัพไซด์ 34%, บมจ.บ้านปู (BANPU) มีอัพไซด์ 30% และ บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) มีอัพไซด์ 30%