ผลกระทบของ Bitcoin Halving ต่อระบบ Decentralized Finance
ช่วงสัปดาห์นี้เป็นช่วงสำคัญของชาว Bitcoin และคริปโทเคอร์เรนซี นั่นคือ เวลาของ Bitcoin halving ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นทุก ๆ 4 ปี ซึ่งจะทำให้ Bitcoin ที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อเป็นรางวัลสำหรับการขุด Bitcoin จะลดลงครึ่งหนึ่ง เหตุการณ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนที่กำหนดล่วงหน้าไว้ของ Bitcoin เพื่อควบคุมปริมาณ Bitcoin ที่สร้างขึ้นตามเป้าหมายทั้งหมด 21 ล้านเหรียญ และที่สำคัญสำหรับนักลงทุนที่ตื่นเต้นและพูดกันมากมายในช่วงนี้ก็คือ หลังจาก Halving ทุกครั้งที่ผ่านมา ราคาของ Bitcoin จะมีการเพิ่มขึ้นของราคาอย่างมีนัยสำคัญทุกครั้ง
สำหรับส่วนของ Decentralized Finance หรือระบบ DeFi เป็น ระบบการเงินที่สร้างขึ้นบนเทคโนโลยี blockchain ซึ่งทำให้การดำเนินการทางการเงินต่าง ๆ เช่น การกู้ยืม การปล่อยกู้ และการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องผ่านตัวกลางทางการเงินแบบดั้งเดิม ซึ่ง DeFi นั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างระบบการเงินที่เปิดกว้าง โปร่งใส และรวมถึงทุกคนที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต รวมถึงเป็นระบบที่ให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนทั้งหลายมาตลอด ซึ่งระบบ DeFi นั้นเป็นที่นิยมอย่างมากเมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว และปัจจุบันเริ่มกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งหลังจากราคา Bitcoin และเหรียญต่างๆที่เพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผลกระทบสำคัญของ BitcoinETF ที่เคยพูดถึงในบทความก่อนหน้านะครับ วันนี้เลยอยากมาชวนคุยเกี่ยวกับผลกระทบของ Bitcoin Halving ที่จะมีต่อ DeFi หรือ Decentralize Finance ที่เป็นแพลตฟอร์มสำคัญของโลกคริปโทเคอร์เรนซีกันครับ
ปริมาณและราคาของ Bitcoin
เรื่องแรกที่อยากจะพูดถึง คือ Bitcoin Halving จะทำให้อุปทานของ Bitcoin ใหม่ที่เพิ่มขึ้นลดลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งมีแนวโน้มที่จะส่งผลให้ราคา Bitcoin สูงขึ้น เนื่องจากราคาของ Bitcoin จะขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์และอุปทานในตลาด เมื่ออุปทานใหม่ลดลง ในขณะที่ความต้องการ Bitcoin อาจยังคงมีอย่างต่อเนื่องและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการเพิ่มขึ้นของราคา Bitcoin จะส่งผลดีต่อนักลงทุนและผู้ใช้งานในระบบ DeFi ที่ถือครอง Bitcoin อยู่ เนื่องจากจะช่วยเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ที่ถือครองมากขึ้น และมีผลกระทบโดยตรงกับราคาของเหรียญที่มีแพลตฟอร์มที่อ้างอิงกับราคาของ Bitcoin นั่นเอง
สภาพคล่องและความผันผวน
การลดลงของอุปทานใหม่ของ Bitcoin อันเป็นผลมาจาก Bitcoin Halving อาจทำให้มีสภาพคล่องลดลง และส่งผลให้ความผันผวนของราคาเพิ่มขึ้นในระยะสั้น เนื่องจากตลาดจะต้องพยายามปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อการใช้งานผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในระบบ DeFi ที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin เช่น การให้กู้ยืม การซื้อขายอนุพันธ์ โดยเฉพาะในด้านการวาง Bitcoin เป็นสินทรัพย์ค้ำประกัน หรือ collateralization rates และความผันผวนที่เพิ่มขึ้นนี้ก็อาจทำให้ผู้ใช้งานและนักลงทุนใน DeFi ต้องเผชิญความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่สูงขึ้น การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนและการบริหารความเสี่ยง เพื่อให้สามารถรับมือกับความผันผวนดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นเป็นเรื่องที่ยากจะหลีกเลี่ยงเช่นกัน
การเพิ่มความรับรู้ในวงกว้าง
เหตุการณ์ Halving มักจะนำไปสู่การกระจายข่าวและการสนทนานักลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในสื่อที่เกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีและสื่อกระแสหลัก ก็มักจะทำข่าวเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง ทำให้ความสนใจใน Bitcoin และตลาดคริปโทโดยรวมเพิ่มขึ้น การเพิ่มขึ้นของความสนใจนี้ก็จะขยายไปยังแพลตฟอร์ม DeFi ต่างๆ ด้วยการนำเสนอเป็นอีกหนึ่งช่องทางการลงทุนและเครื่องมือทางการเงินที่น่าสนใจ นักลงทุนบางกล่มอาจมองหาโอกาสในการกระจายพอร์ตการลงทุนของตนเพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของ Bitcoin การลงทุนในโปรเจกต์ DeFi หรือการใช้งานบริการ DeFi เพื่อสร้างผลตอบแทนอาจกลายเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจมากขึ้น
การแข่งขันและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ DeFi
การเพิ่มขึ้นของความสนใจใน Bitcoin ซึ่งอาจเกิดขึ้นหลังจาก halving ยังสามารถกระตุ้นให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆในอุตสาหกรรม DeFi ที่ทำให้โปรโตคอล DeFi สามารถใช้ประโยชน์จากความผันผวนของราคา Bitcoin หรือแม้กระทั่งสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สามารถส่งเสริมการรวมกันระหว่าง Bitcoin และ DeFi ได้อีกมาก ทำให้ผู้ใช้มีตัวเลือกมากขึ้นและสามารถเข้าถึงเครื่องมือทางการเงินที่หลากหลาย ความหลากหลายนี้สามารถช่วยเพิ่มการรับรู้และการใช้งาน DeFi ในหมู่ผู้ใช้ทั่วไป
โครงการ DeFi ที่น่าสนใจจากเหตุการณ์ Bitcoin Halving
เมื่อ Bitcoin Halving เกิดขึ้น เลยอยากมามองโครงการ DeFi ว่ามีโครงการไหนน่าสนใจบ้าง ซึ่งสิ่งสำคัญคือต้องมองหาเหรียญที่มีศักยภาพในการเติบโต ไม่เพียงแต่เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของความสนใจในตลาดคริปโทโดยรวมหลังจาก Halving แต่ยังรวมถึงเหรียญที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง มีนวัตกรรม และมีความสามารถในการสร้างประโยชน์ให้กับผู้ใช้ในระยะยาว เลยอยากสรุปมาคุยกันครับ
- Aave (AAVE) เป็นโปรโตคอล DeFi ที่ให้บริการด้านการกู้ยืมและการให้กู้ยืมแบบกระจายอำนาจ โดยใช้ Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ เป็นหลักประกัน ในสถานการณ์ที่ Bitcoin Halving ส่งผลให้สภาพคล่องและความผันผวนของ Bitcoin เพิ่มขึ้น Aave อาจได้รับประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของความต้องการใช้บริการให้กู้ยืมและการกู้ยืมที่ใช้ Bitcoin เป็นหลักประกัน
- MakerDAO (MKR) เป็นโปรโตคอล DeFi ที่ออกแบบมาเพื่อรักษาเสถียรภาพของสกุลเงินดอลลาร์ดิจิทัลของตัวเอง (DAI) ผ่านการใช้ Bitcoin และสินทรัพย์อื่น ๆ เป็นหลักประกัน เนื่องจาก Bitcoin Halving อาจส่งผลให้ราคา Bitcoin มีความผันผวนเพิ่มขึ้น ทำให้ค่า DAI ที่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐอาจได้รับผลกระทบ แต่ Maker ก็มีกลไกการออกแบบระบบที่ช่วยรักษาเสถียรภาพของ DAI ได้ดี ดังนั้น Maker อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความมั่นคงของสกุลเงินดิจิทัลท่ามกลางความผันผวนของ Bitcoin
- yearn.finance (YFI) เป็นผู้ให้บริการด้านการจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลอัตโนมัติ โดยนำเสนอบริการที่หลากหลาย ตั้งแต่การให้กู้ยืม การจัดการพอร์ตการลงทุน รวมถึงการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ในระบบ DeFi
- Synthetix (SNX) ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้าง Token ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ติดตามและให้ผลตอบแทนของสินทรัพย์อื่นๆ เช่น สกุลเงิน fiat, สินค้าโภคภัณฑ์, หรือหุ้น หรืออ้างอิงกับสินทรัพย์นอกเชน ความสามารถนี้ให้โอกาสในการเก็งกำไรและการป้องกันความเสี่ยงในตลาดคริปโต
- Uniswap (UNI) เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนโทเคนแบบกระจายอำนาจ (Decentralized Exchange) ชั้นนำที่ใช้งานง่ายและมี liquidity สูง มันช่วยให้การแลกเปลี่ยนโดยตรงระหว่างสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่ต้องใช้ตัวกลาง สร้างโอกาสในการเข้าถึงสินทรัพย์ที่หลากหลายและเพิ่มความเข้มแข็งของตลาด DeFi
- Compound (COMP) เป็นแพลตฟอร์ม DeFi ที่ให้ผู้ใช้สามารถให้ยืมหรือกู้ยืมสินทรัพย์ดิจิทัล นำเสนอกลไกอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเปลี่ยนได้ซึ่งตอบสนองต่ออุปสงค์และอุปทานในตลาด การให้ความสำคัญกับความโปร่งใสและการเข้าถึงทำให้เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ DeFi ที่น่าสนใจ
โครงการเหล่านี้เป็นโครงการระดับท็อปของโลก DeFi ที่อยู่มายาวนานและมีความน่าเชื่อถือ มีคุณสมบัติที่สามารถรับมือกับความผันผวนของราคา Bitcoin และการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพคล่องได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการกู้ยืมที่ไม่ต้องชำระคืนต้นเงิน การให้บริการยืม-ให้ยืมแบบกระจายอำนาจ หรือการจัดการพอร์ตการลงทุนอย่างคล่องตัว จึงอาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงของเหตุการณ์ Bitcoin Halving
ซึ่งจริงๆ แล้วยังมีโครงการ DeFi ใหม่ๆอีกมากมาย เข่น Alchemix (ALCX) เป็นโปรโตคอล DeFi ที่ให้บริการกู้ยืมเงินโดยใช้ Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ เป็นหลักประกัน โดยมีฟีเจอร์พิเศษคือ ผู้กู้ยืมไม่ต้องชำระคืนต้นเงินกู้ ทำให้ได้รับผลกระทบน้อยจากความผันผวนของราคาสินทรัพย์หลักประกัน, Inverse Finance (INV) เป็นแพลตฟอร์ม DeFi ที่เน้นการให้บริการยืม-ให้ยืมสินทรัพย์ดิจิทัล โดยใช้ Bitcoin และสินทรัพย์อื่นๆ เป็นหลักประกัน เป็นต้น ซึ่งถ้าเพื่อนๆสนใจ อยากให้มาศึกษาด้วยกันครับ ทุกโครงการของ DeFi คือวิวัฒนาการของโลการเงิน มีความซับซ้อน แต่ก็น่าสนใจที่จะศึกษาในรายละเอียด
Bitcoin Halving เป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อระบบ DeFi ในหลายด้าน ทั้งด้านราคา สภาพคล่อง และอัตราผลตอบแทน ซึ่งผู้ใช้งานและนักลงทุนจำเป็นต้องติดตามและปรับตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงและความท้าทายที่จะเกิดขึ้นใน DeFi ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความปลอดภัยของระบบ DeFi ก็จะเป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญตามมา เพราะด้วยการเพิ่มขึ้นของความสนใจและการลงทุนอาจนำไปสู่การเป็นเป้าหมายของการโจมตีทางไซเบอร์และการหลอกลวง การป้องกันความเสี่ยงเหล่านี้และการพัฒนามาตรการความปลอดภัยที่แข็งแกร่งจะเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความมั่นคงและความเชื่อมั่นในระบบ DeFi และอีกหนึ่งประเด็นที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ ประเด็นของผู้กำกับ หรือ Regulators ในแต่ละประเทศ ซึ่ง DeFi ส่วนใหญ่ยังไม่เป็นอิสระ และไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับขององค์กรใดๆ ซึ่งอาจจะมีความเสี่ยงในมุมนี้อีกด้วย โลกของ DeFi ยังอีกยาวไกล มาร่วมกันศึกษากันนะครับ
Ref:
https://cointelegraph.com/news/why-bitcoin-halving-matters-future-decentralized-finance
https://crypto.ro/en/news/decoding-the-bitcoin-halving-its-impact-on-decentralized-finances-future/
https://cryptomaniaks.com/bitcoin-halving-april-btc-price-altcoins-ethereum-solana
https://www.binance.com/en/blog/markets/decoding-bitcoin-halving-understanding-the-deflationary-shift-9004915880936630526
https://www.linkedin.com/pulse/how-bitcoin-halving-impact-crypto-bake-io-gok6c/
https://www.securities.io/investing-in-alchemix/
https://www.inverse.finance/
กราฟิก: ณัฐชนน พูนชัย (Boom)